องค์การเซอร์ร่า
Serra International

ประวัติการก่อตั้งและพัฒนาการของคณะเซอร์ร่า

            คณะเซอร์ร่ามีประวัติเริ่มต้น ในระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของปี 1934 ณ เมืองซีแอตเติล  มลรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา  เมื่อฆราวาสคาทอลิกชาย 4 คน คือ แดน รูนีย์/  ริชาร์ด  วาร์ด / แฮโรลต์  แฮเวอลี /และลีโอ  ชารคีย์ ได้พบปะกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง  และเห็นความจำเป็นที่จะมีองค์กรที่จะทำงานเชิดชูพระศาสนจักรคาทอลิก  ด้วยการที่สมาชิกขององค์กรจะรักใคร่สามัคคีทำงาน  และแสวงหาความรู้ ความเข้าใจในพระศาสนาอย่างต่อเนื่องร่วมกัน

เมื่อได้เชิญมิตรสหายบางท่าน มาร่วมอุดมการณ์นี้  พวกเขาก็ได้ก่อตั้งกลุ่มเซอร์ร่ากลุ่มแรกขึ้นที่เมืองซีแอตเติล เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1935  ด้วยการสนับสนุนของพระสังฆราชเจรัลด์ ชอเนสซี่ พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลซีแอตเติ้ล  จอห์น  จาเนท สมาชิกรุ่นแรกคนหนึ่ง และต่อมาได้เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มเซอร์ร่าแห่งชิคาโก ได้เสนองานส่งเสริมกระแสเรียกเป็นพระสงฆ์ให้เป็นงานของกลุ่ม ดังนั้นในวันที่ 12 มิถุนายน 1935  วัตถุประสงค์เดิมของกลุ่มซีแอตเติล จึงได้ขยายออกเพื่อครอบคลุมงานนี้

ภายในสามปีต่อมากลุ่มเซอร์ร่าได้ก่อตั้งกลุ่มใหม่เพิ่มเติมขึ้นที่เมืองสโปเกน ปอร์ตแลนด์ ทาโคมาและ ซาน- ฟรานซิสโก ภายใต้การนำและช่วยเหลือของ กลุ่มซีแอตเติล  เมื่อถึงจุดนี้จึงเห็นความจำเป็นที่กลุ่มทั้งหมด จะต้องมีแนวทาง และการประสานงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันในกิจกรรมต่างๆของคณะ  ในวันที่ 2 กรกฎาคม 1938  ผู้แทนจากกลุ่มเซอร์ร่าทั้ง  5 กลุ่มได้ลงมติที่จะรวมตัวกันก่อตั้งขึ้นเป็น องค์กรเซอร์ร่าสากล  โดยให้นำวัตถุประสงค์ของผู้ก่อตั้งกลุ่มเซอร์ร่ากลุ่มแรกมาเป็นวัตถุประสงค์ร่วมกันขององค์กรนี้ ดร.โธมัส วี.ซีฮาน(Dr.Thomas V. Sheehan)แห่งกลุ่มซีแอตเติล  ได้รับเลือกเป็นประธานเซอร์ร่าสากลคนแรกจนถึงวันที่ 9 สิงหาคม 1941 และพระสังฆราช เจรัลด์ ชอเนสซี่เป็นจิตตาธิการคนแรกของเซอร์ร่าสากลจนถึงปี 1946

            ในปี 1946 คณะกรรมการบริหารองค์การเซอร์ร่าสากล  พร้อมด้วยพระคาร์ดินัลซามูแอล สตริทช์ พระอัครสังฆราชแห่งนครชิคาโกขณะนั้นและเพิ่งได้รับเชิญให้เป็นจิตตาธิการของเซอร์ร่าสากลองค์ใหม่  จึงตัดสินใจที่จะเปิดที่ทำการใหญ่ขึ้นที่นครชิคาโก  พร้อมด้วยบุคลากรทำงานเต็มเวลา  เพื่อช่วยงานบริหารต่างๆขององค์กร  การตัดสินใจนี้ได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ประจำปี  ที่นครชิคาโก
ต่อมาในเดือนเมษายน 1947 คณะกรรมการบริหาร ได้แต่งตั้ง Mr. Harry O’ Haire เป็นลูกจ้างประจำคนแรกในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหาร เพื่อรับผิดชอบดูแลงานประจำของเซอร์ร่าสากล
ในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1951 โดยคำร้องขอของคาร์ดินัล สตริทช์  จิตตาธิการเซอร์ร่าสากลสันตะสำนัก แผนกงานกระแสเรียกชีวิตสงฆ์ ได้รับคณะเซอรร่าเข้าเป็นองค์กรหนึ่งที่ทำงานด้านส่งเสริมทะนุบำรุงกระแสเรียกสงฆ์ สังกัดสมณกระทรวงว่าด้วยสามเณราลัยและการศึกษาคาทอลิก
คณะเซอร์ร่าได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก ระหว่างทศวรรษ 1950  มีการก่อตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นอีก ในหลายมลรัฐของอเมริกา คานาดา เม็กซิโก เปรู อังกฤษ และอิตาลี 

            ในทศวรรษ 1960  ด้วยการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไปของคณะ  ทำให้คณะได้ขยายไปยัง สเปน เวเนซูเอลา  บราซิล ฮ่องกง  ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย  เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันถึงบทบาทอันสำคัญ ในพระศาสนจักร ในระดับสากล  คณะเซอร์ร่าได้เข้าร่วมประชุมใหญ่นานาชาติเรื่องกระแสเรียก ครั้งที่ 1 ณ กรุงโรม ในปี 1962 ความสำเร็จต่อมาในทศวรรษ 1970 สะท้อนให้เห็นได้จากการจัดตั้งสภาเซอร์ร่าระดับประเทศ  ในอังกฤษและบราซิล  และการอนุมัติให้สังฆานุกรถาวรเป็นสมาชิกได้  นอกจากนั้น  คณะเซอร์ร่ายังได้เป็นสมาชิกองค์กรของคณะกรรมการกระแสเรียกคาทอลิกแห่งชาติด้วย
ในทศวรรษ 1980 ได้มีการก่อตั้งสภาเซอร์ร่าระดับประเทศที่สเปน อิตาลี เม็กซิโก และฟิลิปปินส์ และขยายกลุ่มต่อไปยังแอฟริกา นิวซีแลนด์ กานา ไนจีเรีย และสวิสเซอร์แลนด์ (คณะเซอร์ร่าได้เข้ามาในประเทศไทยในปี 1980)

คณะเซอร์ร่าได้มีโอกาสเข้าร่วมในการประชุมใหญ่นานาชาติ ว่าด้วย เรื่องกระแสเรียก ครั้งที่ 2 ในปี 1981
ในการประชุมใหญ่ประจำปี 1986 ของคณะเซอร์ร่า  ในเมือง มิลวอคกี้  ประเทศสหรัฐอเมริกา 
ได้มีการแก้ไขธรรมนูญและข้อบังคับของคณะ  ให้สามารถรับสุภาพสตรีเป็นสมาชิกเซอร์ร่าได้
ในปี 1990 คณะเซอร์ร่าได้กำหนดให้มีโครงการแผนระยะยาวซึ่งกำลังดำเนินการอยู่  มีชื่อว่า “วิสัยทัศน์ 2000 ”  ซึ่งเริ่มในปี 1991 คณะเซอร์ร่ากำลังก้าวไปข้างหน้ามุ่งสู่ปี 2000    สมาชิกเซอร์ร่าทั่วโลกได้สนองตอบคำท้าทายที่จะเป็น “แขนแห่งกระแสเรียกของพระศาสนจักร”
ในสหรัฐอเมริกาและคานาดา สภาเซอร์ร่าแห่งประเทศทั้งสองซึ่งก่อตั้งในปี 1994 ปี 1996 ตั้งสภาเซอร์ร่าของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และแปซิฟิใต้ ได้ทำงานสนองความต้องการเฉพาะและหลากหลายของบรรดาสมาชิกจาก หลายเชื้อชาติและต่างภาษา  พร้อมกับการเมืองที่เปลี่ยนแปลงในยุโรปตะวันออก ในช่วง 10 ปี ต่อมาจึงได้มีกลุ่มเซอร์ร่าใหม่เกิดขึ้น ในฮังการี  โครเอเชีย  สโลเวเนีย สาธราณรัฐเช็ค รูเมเนีย ตลอดจนถึงในเอเชียใต้ เมียนม่าร์ อินเดีย บังคลาเทศ และสิงคโปร์
ในปีค.ศ. 2000 กลุ่มเซอร์ร่าแคนนาดาได้แยกจากสภาเซอร์ร่าสหรัฐอเมริกา  ตั้งเป็นสภาเซอร์ร่าแคนนาดา และในปี ค.ศ. 2001 ตั้งสภาเซอร์ร่าประเทศไทย

          ในปี 2008 มีกลุ่มเซอร์ร่าทั้งสิ้น 1,109 กลุ่ม  มีสมาชิกมากกว่า 20,000 คน ใน 46 ประเทศ     ใน 6 ภูมิภาคของโลก

ที่มาของชื่อเซอร์ร่า

ผู้ก่อตั้งได้พยายามหาชื่อจำเพาะสำหรับกลุ่มที่ก่อตั้งใหม่นี้ 
จอห์น เบรย์ ซึ่งเป็นสมาชิกผู้หนึ่ง ได้เสนอชื่อ “เซอร์ร่า” (Serra)
ซึ่งเป็นชื่อของคุณพ่อฮูนิเปโรเซอร์ร่า (Junipero Serra) พระสงฆ์มิชชันนารีคณะฟรังซิสกัน ชาวเสปน
คุณพ่อเซอร์ร่าได้รับขนานนามว่า “อัครสาวกแห่งคาลิฟอร์เนีย” ในเขตของ สหรัฐอเมริกาตะวันตก
ท่านเป็นผู้ก่อตั้งบรรดามิสซังต่างๆแถบ “เอล คามิโน เรียล” คือ มิสซังซานดิเอโก  มิสซังซานคาร์โลส 
มิสซังซานอันโตนิโอ  มิสซังซานคาเบรียล  มิสซังซานหลุยส์อบิสโพ  มิสซังซานฟรานซิสโก 
มิสซังซานฮวนคาปิสตราโน  มิสซังซานตาคลาราและมิสซังซานบอนาเวนตูรา 
กลุ่มเซอร์ร่าใหม่ที่ตั้งขึ้นนี้ จึงเป็นอนุสรณ์ที่มีชีวิตในจิตตารมณ์ของมิชชันนารีผู้สุภาพถ่อมตนองค์นี้
(ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีโดย สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 เมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1988)

Go Top
Back to Homepage